สัตวแพทย์ร่วมกับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตร กพส. เร่งช่วยเหลือ"นกเงือกถูกทำร้ายปากหัก" ลองใส่ปากเทียม 3 ชิ้น

เมื่อวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563 ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้รับความคืบหน้าและผลการรักษานกกก ซึ่งเป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดจำพวกนกเงือกและเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ว่า “ปีกซ้ายน่าจะใช้การไม่ได้ตลอดชีวิต” คาดว่าบาดเจ็บที่เส้นประสาทหรือเอ็น จากการเอ็กซเรย์ไม่พบกระดูกหัก ได้รับการประสานงานจากนายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อทำการรักษานกเงือกบาดเจ็บที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ทำการตรวจร่างกายพบว่า นกเงือกที่ได้รับมาคือ นกกก หรือนกกาฮัง ซึ่งเป็นนกเงือกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พบความผิดปกติคือ ปากล่างหัก และปีกซ้ายบาดเจ็บ นกอยู่ในสภาพอ่อนแรง และไม่สามารถกินอาหารเองได้ หลังจากทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ทางทีมสัตวแพทย์นำทีมโดย อ.สพ.ญ.ดร.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ และ สพ.ญ.พัชริดา ดิษฐวงศ์ ได้ทำการประสานงานไปยังอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ประกอบด้วย ผศ.บรรพต กุลสุวรรณ, อ.ดร.วัชมา โพธิ์ทอง และคุณระวี อยู่สำราญ โดยการใช้เทคโนโลยี 3D printing ร่วมกับการหล่อโครงด้วยวัสดุไฟเบอร์กลาส ทำให้นกกกตัวนี้ มีปากเทียมที่สามารถใช้กินอาหารได้ด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็ตามยังพบปัญหาเกี่ยวกับการเกาะยึดของวัสดุกับปากนกอยู่ ทำให้ปากเทียมสามารถติดอยู่กับปากนกกกได้นานสุดเพียง 10 วัน ซึ่งทางทีมงานจะเร่งทำการแก้ไขปัญหาที่พบและพัฒนารูปแบบของปากเทียมต่อไป ในปัจจุบัน นกกกตัวนี้ยังคงอยู่ในความดูแลของหน่วยสัตว์ป่า โรงพยาบาลสัตว์ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน และจะทำการส่งมอบคืนให้แก่กรมอุทยานฯ เมื่อการติดตั้งปากเทียมสำเร็จ และฟื้นฟูสภาพร่างกายจนสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าโอกาสที่สามารถปล่อยคืนนกกกตัวนี้สู่ธรรมชาตินั้นมีอยู่น้อย อาจต้องทำการดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าที่มีสัตวแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดแทน โดยทั้งนี้ต้องทำการหารือกับทางกรมอุทยานฯต่อไปในอนาคต

ข่าว/ภาพ โดย: นางสาวดวงนภา  วนิชกุลพิทักษ์