แหล่งโบราณคดีในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

KU KPS Prehistoric Archeology Exhibition and the Ancient City of Kamphaeng Saen

           สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้สำรวจศึกษาข้อมูล และจัดทำรายงานแหล่งข้อมูลแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และมอบเป็นของขวัญในวาระครบรอบ 15 ปี วิทยาเขตกำแพงแสน เมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการ
“รักเมืองไทยกับยางสยาม”จากการศึกษาค้นคว้าทำให้ทราบว่าภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วิทยาเขตกำแพงแสน เคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุราว 2,000 ปี มีการขุดพบหลักฐานที่มนุษย์โบราณใช้เพื่อการอยู่อาศัย และพิธีการ เช่น ใบหอกเหล็ก ลูกปัดหิน ลายผ้าทอโบราณ โครงกระดูกและเศษภาชนะดินเผา

โบราณวัตถุที่ค้นพบ บางรายการจัดแสดงอยู่ภายในหอประวัติ

           Office of Agricultural Museum and Culture, Kasetsart University created this exhibition under the support of the project “Love Thailand with Siamese Rubber” in December 1994. Then, the prehistoric archeology exhibition was presented as a gift on the 15th Foundation Anniversary of KU KPS According to archeological research, once over 2,000 years before prehistoric era, KU KPS used to be a human settlement because evidence that ancient humans used to live and use in those-days ceremonies was found such as iron spear blades, stone beads, ancient weaving patterns, human skeletons and pottery fragments. Some items of the antiques discovered are on display in the KU KPS Hall of History.  

Some items of the ancient artifacts discovered are displayed within the KU KPS Hall of History.

แผนที่แสดงแหล่งโบราณคดีสำคัญที่พบในเขตจังหวัดนครปฐม

Map of important archaeological sites found in Nakhon Pathom Province.

แผนที่แหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่พบภายในวิทยาเขตกำแพงแสน

The prehistoric archeology sites found on KU KPS  

1. ใบหอกเหล็กขนาดใหญ่ ยาว 45.5 ซม. กว้าง 11 ซม. มีบ้อง (socket) สวมด้ามไม้ สภาพเดิมหักเป็น 3 ท่อน บนผิวเหล็กมีสนิมประทับรอยของผ้าโบราณ ที่ใช้หุ้มห่อตัวใบหอก

A large steel spear with 45.5 cm length and 11 cm width was found with a socket for a wooden handle. Its original condition was found as three broken pieces and on its surface of steel, a rusty imprinting of ancient fabric covering the spear was also found.

2. ลูกปัดเขี้ยวสัตว์ขนาดยาว 8 ซม. กว้าง 3 ซม. พบในหลุมขุดค้น

A bead made from an animal fang with 8 cm length and 3 cm width was also found.

3. ลูกปัดหินคาร์นีเลียน (carnelian) สีส้ม และลูกปัดหินอาเกทลายแถบ (banded agate) พบในหลุมศพของโครงกระดูกหมายเลข 1

Orange carnelian and the banded agate beads found in the grave of the skeleton number 1.

4. หินบดยาหรือหินลับ (polishing stone) พบจากการขุดค้น

Polishing stones were also found in the excavation.

5. ลูกปัดหินอาเกท และคาร์นีเลียนจากแหล่งโบราณคดีดอนตาเพชรและปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเชื่อว่าน่าจะอยู่ในสมัยเดียวกันกับแหล่งโบราณคดีในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

The agate and carnelian beads from archaeological sites of Don Ta Phet and Prasat Muang Sing in Karnchanaburi province are believed that they were of the same period as those found at the archaeological site on KU KPS

6. โครงกระดูกทั้ง 2 มีประเพณี การฝังศพแบบเดียวกัน คือ นอนหงายเหยียดยาว หันศีรษะไปทางด้านทิศตะวันออก และมีเครื่องใช้ของผู้ตายฝังรวมอยู่ด้วย

Both skeletons had the same burial tradition in which they were laid down on their backs and their heads turned to the east. It was also found that their personal appliances of the deads were also buried.

7. สภาพหลุมขุดค้น ณ แหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ขณะทำการขุดค้นไปได้ราว 50 ซม. บริเวณที่พบโครงกระดูกหมายเลข 1 และ 2 อยู่ทางด้านซ้ายมือของภาพ

The excavation condition at the prehistoric archeology site at KU KPS was about 50 cm depth in the ground where the skeleton number 1 and number 2 were located on the left hand side of the image.

8. เครื่องมือเหล็กพบในบริเวณใกล้หลุมขุดค้น

A steel tool was found in the vicinity of the excavation.

9. ใบหอกเหล็กขนาดยาว 15.5 ซม. กว้าง 3.5 ซม. มีแกนสวมปลายไม้ ส่วนปลายแหลมหักหายไป สภาพเดิมพบหักเป็น 3 ท่อน บนผิวมีสนิมประทับรอยผ้าโบราณอยู่ด้วย

A steel spear with 15.5 cm length and 3.5 cm width with a dowel for wooden handle and without its tip was found. Originally it was found as three broken pieces and on its surface, the rust imprinted by the ancient cloth was also found.

10. เมืองโบราณกำแพงแสน

เมืองโบราณกำแพงแสน เป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณสมัยทวาราวดี อยู่ในเขตอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 11 - 16 สมัยเดียวกับเมืองโบราณเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เช่น เมืองโบราณ นครปฐม อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี คูบัว จังหวัดราชบุรี 

นอกจากนี้ในบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ยังมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 2,000 ปี มาแล้วอีกด้วย (ขุดต้นปี พ.ศ.2534) โบราณวัตถุที่พบที่นี่คล้ายคลึงกับที่พบในแหล่งโบราณคดีบ้านกระถินแดง อำเภอกำแพงแสน บ้านห้วยหนองกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และที่ดอนตาเพชร อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี

10. Ancient City of Kamphaeng Saen

The Ancient City of Kamphaeng Saen was an ancient community of Dvaravati period located in Kamphaeng Saen district, Nakhon Pathom province. This ancient city lasted from the 11th to 16th centuries in the same period as those ancient cities in neighboring provinces such as Nakhon Pathom ancient city in Nakhon Pathom, U Thong ancient city in Suphan Buri, and Kubua ancient city in Ratchaburi.

The artifacts found here are similar to those found in the archaeological sites in neighboring provinces including sites at Baan Kratin Daeng, Kamphaeng Saen District; Ban Huai Nong Krang, Mueang District, Nakhon Pathom Province and at Baan Don Ta Phet, Phanom Thuan District, Kanchanaburi Province.

11. ลายเนื้อผ้าทอโบราณ ที่ปรากฏหลักฐานเป็นรอยประทับของสนิมเหล็กบนใบหอก แสดงลักษณะการทอแบบธรรมดา (plain weave) โดยใช้เส้นด้ายที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่

Traditional woven fabric which was the evidence of rust imprinted on steel spear shows the plain weaving characteristic using a relatively large yarn.

12. กำไลสำริดของโครงกระดูกหมายเลข 1 ในหลุมขุดค้นซึ่งสวมกำไลแบบเดียวกันนี้ข้างละ 5 วง กำไลทั้งหมดอยู่ในสภาพแตกหักและเกิดเป็นสนิมสีเขียว

Fragments of green rusty bronze bracelets of the skeleton number 1 was found in the excavation; moreover, it was also learned that in each side of his/her hand, the skeleton wore the same 5 bracelets.

13. เศษภาชนะดินเผา (pot sherds) แบบผิวเรียบ เคลือบน้ำโคลนสีนวล (buff slip) เนื้อหนาหยาบ มีส่วนประกอบของแกลบข้าวหรือพืชในเนื้อดินมาก จากลักษณะของเนื้อดิน แสดงว่าเผาโดยใช้อุณหภูมิไม่มากนัก หรือใช้เวลาสั้นๆ ในการเผา  

Shreds of an ancient pot with smooth surface, buff slip and coarse texture containing many rice husk or plants in soil were found. The soil texture of the pot showed that its baking temperature was not very hot or it took a short time to burn the soil.

14. เศษภาชนะดินเผาแบบมีการตกแต่งผิวด้วยลายขูดขีด เนื้อค่อนข้างหยาบ มีส่วนผสมของแกลบข้าวและกร๊อก (grog)

Fragments of a porcelain container decorated with scratches of which texture was quite rough with the mixture of rice husk and grog were found.

15. เศษภาชนะดินเผาแบบมีการตกแต่งผิวด้วยลายเชือกทาบ (cord marked) อย่างหยาบและเคลือบด้วยน้ำโคลนสีนวล เนื้อภาชนะบางค่อนข้างแกร่งมีส่วนผสมของหินตำ หรือทรายหยาบปริมาณมาก

Fragments of a porcelain container decorated with coarse cord marked and coated with light-colored of muddy water of which its texture was quite tough with a mixture of pound stones or rough sand were also found.

16. ภาพแสดงหลุมฝังศพหมายเลข 1 และ 2 ภายในหลุมขุดค้นของแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

The tomb number 1 and number 2 are shown at the prehistoric archaeological site at KU KPS.